การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย คืออะไร เป็นนิติบุคคลต้องตั้งรับความเสี่ยงด้านไหนบ้าง

กรกฎาคม 15, 2025

การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่หน่วยงานหรือองค์กรให้ความสำคัญ เพื่อประเมิน วิเคราะห์หาจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวองค์กรเองจากรากฐาน โครงสร้าง เป็นเหมือนการตรวจสุขภาพขององค์กรว่ามีจุดด้อยที่ต้องแก้ไขอยู่ส่วนไหน เช่นเดียวกันกับงานนิติบุคคลที่ต้องมีการบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในการบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนกลาง หรือในเรื่องการบริหารจัดการต่าง ๆ กับลูกบ้านอาคารชุดหรือหมู่บ้านจัดสรร

การบริหารความเสี่ยง คืออะไร

การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย คือกระบวนการในการเตรียมตัวพร้อมรับกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยการวิเคราะห์ ประเมิน ดูแล และตรวจสอบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งจากโครงสร้างการทำงาน ลักษณะการดำเนินงานของพนักงานนิติบุคคล เพื่อหาจุดอ่อนและวางแผนรับมือ เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์โครงการและการดำเนินงานของนิติบุคคลอย่างน้อยที่สุด

ข้อดีของการบริหารความเสี่ยง ในงานนิติบุคคล

  • ลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายหรือปัญหา
  • ลดความรุนแรงของความเสียหาย หรือการบรรเทาความรุนแรงเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เพราะได้มีการคาดการณ์และวางแผนล่วงหน้าแล้ว
  • การดำเนินงานราบรื่น เพราะปัญหาได้รับการแก้ไขหรือเตรียมรับมือ ทำให้งานส่วนอื่นดำเนินต่อได้ไม่สะดุด
  • ช่วยเตรียมความพร้อมรับมือเมื่อต้องเจอสถานการณ์จริง
  • ช่วยให้องค์กรนำเอาจุดอ่อนไปพัฒนา ปรับปรุง แก้ไขได้อย่างทันท่วงที

การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย สำคัญอย่างไรในงานนิติบุคคล

เพราะหน้าที่การปฏิบัติหน้าที่และขอบเขตของงาน นิติบุคคลอาคารชุด หรือนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรค่อนข้างมีความละเอียดและซับซ้อนในการดูแลจัดการหรือควบคุม มักเกี่ยวเนื่องกันทั้งในเรื่องของพื้นที่ทรัพย์สินส่วนกลาง ไปจนถึงสภาพความเป็นอยู่ของสมาชิกในโครงการ ทำให้การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญ ที่จะช่วยให้นิติบุคคลสามารถปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว รวมถึงมีแผนรับมือเมื่อเกิดปัญหาหรือเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างทันท่วงที

นิติบุคคลอาคารชุดหรือนิติบุคคลหมู่บ้าน ควรมีแผนรับมือความเสี่ยงด้านใดบ้าง ?

  • ด้านชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัย เช่น การวางแผนรับมือเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ เหตุโจรกรรม เหตุขัดข้องของระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ
  • ด้านสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัย เช่น การวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมในโครงการ มีการติดกล้องวงจรปิด มีการใช้ระบบแสกนหน้าเพื่อเข้าพื้นที่ หรือมาตรการความปลอดภัย
  • ด้านการรักษามูลค่าทรัพย์สินของโครงการ ไม่ปล่อยให้ทรัพย์สินส่วนกลางเสื่อมโทรม มีการวางแผนบำรุง ดูแลรักษา หรือติดตั้งทรัพย์ส่วนกลางที่มีประโยชน์ต่อคนส่วนมากในเวลาที่เหมาะสม
  • ด้านการลดข้อขัดแย้ง ทั้งในด้านความคิดเห็นและด้านการแก้ไขปัญหาที่มาจากข้อร้องเรียน ต้องมีแผนบริหารความเสี่ยงด้านการเงิน ด้านการจัดการปัญหาที่ชัดเจน
  • ด้านการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม ควรมีการวางแผนการใช้งานทรัพยากรต่าง ๆ ภายในอาคารชุดหรือในหมู่บ้านอย่างเหมาะสม มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์โดยรวมสูงที่สุด
  • ด้านการเผยแพร่ภาพลักษณ์ นอกจากเรื่องภายในโครงการและการดูแลลูกบ้านแล้ว อีกหนึ่งแผนที่ต้องเตรียมรับมือคือเรื่องของภาพลักษณ์โครงการ การวางแผนประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว

ผลกระทบที่เกิด หากนิติบุคคลที่ไม่มีแผนรับมือความเสี่ยง

  • ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในโครงการ เช่น การขาดแผนรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่เคยมีการประเมินความเสี่ยงของพื้นที่ หรือขาดการการวางแผนรับมือในสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ
  • สภาพความเป็นอยู่ของลูกบ้านไม่ปลอดภัย เกิดอาชญากรรมบ่อย เนื่องจากไม่มีแผนความปลอดภัย หรือแผนป้องกันอันตรายจากบุคคลภายนอก เป็นต้น
  • เกิดความเสียหายที่ต้องใช้เงินในการซ่อมแซมแก้ไขฟื้นฟูที่สูงเพราะไม่มีการวางแผนรับมือความเสื่อมสภาพ หรือแผนรองรับการบำรุงรักษา
  • มูลค่าของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ลดลง เนื่องมาจากการขาดแผนการรับมือที่ดีทำให้สภาพแวดล้อมและทรัพย์สิน ตัวอาคารต่าง ๆ เสื่อมโทรม
  • เกิดปัญหาด้านงบประมาณบานปลาย การบริหารที่ไม่โปร่งใส ขาดแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนให้ลูกบ้านได้รับรู้
  • ชื่อเสียงลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโครงการที่แก้ไขได้ยาก

การบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยในงานนิติบุคคล มีองค์ประกอบสำคัญอะไรบ้าง

สำหรับการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภับในงานนิติบุคคลโดยมีเป้าประสงค์เพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหา ประเมินโอกาสในการเกิดปัญหาและหาแนวทางในการรับมือ ไปจนถึงการวางแผนล่วงหน้าเพื่อรองรับความเสี่ยงและอันตรายจากสาเหตุต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น มีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้

1. ประเมิน/ระบุความเสี่ยง (Risk Identification)

เป็นการตรวจสอบ ค้นหา และประเมินองค์กรของตัวเองว่ามีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายในด้านในบ้าง หรือมีปัญหาใดที่จะทำให้การดำเนินงานไปไม่ถึงเป้าหมาย เป็นอุปสรรคในการบริหารงานนิติบุคคล เช่น สถานะการเงินมีความสุ่มเสี่ยง, กลยุทธ์การดำเนินงานไม่เข้มแข็งมากพอ หรือมีกฎระเบียบชุมชนที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย เพื่อหาต้นเหตุความเสี่ยงที่จะต้องหาแนวทางแก้ไขต่อไป

2. การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง (Risk Analysis and Assessment)

เมื่อระบุปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้แล้ว ถัดมาคือการวิเคราะห์หาโอกาสที่ความเสี่ยงเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้ เพื่อจัดลำกับความสำคัญของปัญหาความเสี่ยงที่จะต้องรับมือจากความเสี่ยงสูง ไปหาความเสี่ยงต่ำ

3. การวางแผนจัดการความเสี่ยง (Risk Response Planning)

หลังจากรู้ลำดับความสำคัญของปัญหาที่เป็นความเสี่ยงในการปฏิบัติงานด้านนิติบุคคลแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อก็คือการกำหนดแนวทางในการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านั้น ซึ่งสามารถเลือกทำได้หลายวิธี เช่น

  • มาตรการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk Avoidance) คือการหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงเหล่านั้นขึ้น
  • การลดความเสี่ยง (Risk Reduction/Mitigation) เช่น การออกมาตรการป้องกันต่าง ๆ การขอความร่วมมือ การสร้างความตระหนักรู้ให้กับสมาชิกลูกบ้าน เพื่อลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงให้น้อยลง
  • การโอนย้ายความเสี่ยง (Risk Transfer/Sharing) เป็นการย้ายความเสี่ยงไปยังหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น การทำประกันภัยทรัพย์สินคอนโด การทำประกันสำหรับภัยพิบัติ เพื่อลดผลกระทบโดยตรงเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นจริง
  • การยอมรับความเสี่ยง (Risk Acceptance) สำหรับความเสี่ยงบางประการที่ส่งผลกระทบค่อนข้างต่ำ การตัดสินใจยอมรับความเสี่ยงบนพื้นฐานการดูแลที่ดีก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาขององค์กรนิติบุคคลและความเห็นของลูกบ้านร่วมกัน

4. การติดตามและควบคุมความเสี่ยง (Risk Monitoring and Control)

เมื่อมีการวางแผนรับมือความเสี่ยงแล้ว การติดตามผลการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ว่ามีความเป็นไปได้ มีความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อจะได้นำเอาแผนบริหารความเสี่ยงเหล่านั้นมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

เพราะการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยเป็นเรื่องที่จะช่วยทั้งลดโอกาส ลดผลกระทบ และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโครงการและการดำเนินงานของนิติบุคคลได้ APP Services มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านนิติบุคคล ทีมงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงสูง สามารถวิเคราะห์ วางแผน และประเมินแผนการเพื่อลดโอกาสและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดต่อทรัพย์ส่วนกลาง ทั้งการยกระดับความปลอดภัย การฝึกอบรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ไปจนถึงการตรวจสอบและปรับปรุงแผนความเสี่ยงอย่างไม่หยุดนิ่ง ครบจบรอบด้านแบบผู้ให้บริการด้านนิติบุคคลแบบมืออาชีพ


☎️ Tel: 02-086-7199

🟢 Line OA: @appmanagement

🔵 Facebook: APP Home Private Service

ติดต่อเราผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

บทความอื่นๆ

ผู้เชี่ยวชาญการ
บริหารงานนิติบุคคล
และบริการจัดการ
อสังหาริมทรัพย์

ขั้นตอนบริการล้างและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ
เราทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน
ทำความสะอาดล้ำลึกทุกจุด พร้อมตรวจเช็กระบบอย่างมืออาชีพ
01 ปูผ้าใบป้องกันสิ่งสกปรกบริเวณพื้นที่ล้างทำความสะอาด
02 ตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
03 วัดอุณหภูมิและตรวจเช็กกระแสไฟฟ้า
04 ล้างทำความสะอาดแผงฟินคอยล์
05 ล้างทำความสะอาดแผ่นฟิลเตอร์กรองอากาศ
06 ล้างทำความสะอาดพัดลมกรงกระรอก
07 ดูดและเป่าท่อน้ำทิ้งเพื่อป้องกันการอุดตัน
08 ทำความสะอาดตัวเครื่อง Fan Coil Unit
09 เป่าไล่ความชื้นในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องปรับอากาศ
10 ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคบนแผงฟินคอยล์
11 ล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อน (Condensing Coil)
12 ตรวจสอบแผงควบคุมและระบบการทำงานของเครื่อง
13 ตรวจวัดอุณหภูมิความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
14 ตรวจเช็กแรงดันและค่ากระแสไฟฟ้าเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสม
15 ส่งมอบงานให้ลูกค้า พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษา
เครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสม
Air conditioner cleaning and maintenance process
We provide a comprehensive air conditioner cleaning service, enhancing efficiency, extending lifespan, ensuring deep cleaning of every component and conducting a professional system check-up.
01 Lay a protective tarp to prevent dirt and debris in the cleaning area.
02 Inspect the air conditioner’s operation, including the swing panel.
03 Measure temperature and check electrical current.
04 Clean the coil fins.
05 Wash and clean the air filter.
06 Clean the squirrel cage fan.
07 Vacuum and blow out the drain pipe to prevent clogging.
08 Clean the fan coil unit (FCU) casing.
09 Blow out moisture from various parts of the air conditioner.
10 Spray disinfectant on the coil fins.
11 Clean the condensing coil (outdoor unit).
12 Inspect the control panel and overall system operation.
13 Measure the cooling temperature of the air conditioner.
14 Check pressure levels and electrical current to ensure optimal performance.
15 Deliver the completed service to the customer with expert advice on proper air conditioner maintenance.