การจัดการงานวิศวกรรม

เจาะลึก! การจัดการงานวิศวกรรม คืออะไร? มีบทบาทหน้าที่อย่างไร

มิถุนายน 5, 2025

สำหรับสายงานอสังหาริมทรัพย์ หรือในการจะที่เราจะริเริ่มโครงการหรือก่อสร้างอาคารใด ๆ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขั้นตอนการจัดการงานวิศวกรรม ตั้งแต่ขั้นตอนวางแผนบริหารจัดการโครงการ การวางระบบโครงสร้าง การออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน ถ้าอยากทราบว่าการจัดการงานวิศวกรรมสำคัญอย่างไร และครอบคลุมอะไรบ้าง วันนี้ APP Services มีคำตอบ

การจัดการงานวิศวกรรม คืออะไร

การจัดการงานวิศวกรรม (Engineering Management) คือ การนำเอาองค์ความรู้ทางด้านวิศวกรรรมมาผสมผสานทำงานร่วมกับทักษะการบริหารจัดการ เพื่อบริหารจัดการในเรื่องการออกแบบโครงสร้าง การวางแผนดำเนินงานในโครงการนั้น ๆ รอบด้านให้มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการ และมีความปลอดภัยในการใช้งาน กล่าวได้ว่าเป็นการบริหารจัดการในด้านเทคนิคของวิศวกรรมให้ออกมากลมกลืนและลงตัว ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของโครงการมากที่สุด

องค์ประกอบหลักของการจัดการงานวิศวกรรม มีอะไรบ้าง ?

การจัดการงานวิศวกรรม ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญ คือศาสตร์ของความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับศิลปะแห่งกาารบริหารจัดการ ดังนี้

  • ความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรม: โดยจะต้องมีทั้งความรู้และความสามารถในด้านวิศวกรรมศาสตร์อย่างลึกซึ้ง มีประสบการณ์ และแก้ไขปัญหาทางวิศวกรรมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศกรรมเครื่องกล วิศวกรรมโครงสร้าง วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมอุสาหการ ฯลฯ
  • ความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการ: เป็นทักษะและความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับศิลปะในการบริหารและจัดการทั้งทรัพยากรภายในโครงการทั้งวัสดุและทรัพยากรมนุษย์ ไปจนถึงการจัดการโครงการ เพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่อง ราบรื่น มีประสิทธิภาพ โดยจะต้องใช้ทั้งทักษะด้านการวางแผน ทักษะด้านการจัดการองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ ทักษะด้านการเป็นผู้นำ สร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างกำลังใจในการทำงาน ไปจนถึงทักษะด้านการควบคุม ประเมิน และแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดอย่างทันท่วงที

ความสำคัญของการจัดการงานวิศวกรรม

การจัดการงานวิศวกรรม มีความสำคัญในระดับรากลึกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะการดำเนินการโครงการ สร้างอาคาร หรือการสร้างที่อยู่อาศัย จะต้องมีการใช้องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมอื่น ๆ รอบด้านในการวางแผน ออกแบบและประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน การจัดการงานวิศวกรรมจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาก ทั้งต่อความปลอดภัยและต่อภาพลักษณ์ที่ดีของโครงการนั้น ๆ

การจัดการงานด้านวิศวกรรม มีข้อดีอย่างไร

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผน และการดำเนินงานการก่อสร้างอาคารและการวางระบบโครงสร้าง ไปจนถึงมาตรฐานความปลอดภัย
  • มีการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ลดรายจ่ายสิ้นเปลือง ประหยัดเวลาการดำเนินงาน เป็นตัวกลางในการสื่อสารและประสานงาน ลดความล่าช้าของการก่อสร้าง
  • ควบคุมคุณภาพวัสดุ สร้างมาตรฐานในการก่อสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด
  • ลดความเสี่ยงจากการเกิดปัญหาด้านวิศวกรรม สามารถประเมินและวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาเพื่อหาวิธีแก้ไขได้ทันท่วงที
  • สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโครงการว่ามีมาตรฐานการดำเนินงานก่อสร้างโดยทีมวิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ

การจัดการงานวิศวกรรม ครอบคลุมด้านใดบ้าง

การจัดการงานวิศวกรรม เป็นงานที่มีขอบเขตและหน้าที่ค่อนข้างกว้างและซับซ้อน แต่หลัก ๆ แล้วจะเป็นการบริหารจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “วิศวกรรมอาคาร” ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหลักการออกแบบอาคาร การวางระบบโครงสร้างภายในอาคาร การติดตั้งระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ ไปจนถึงการบริหารจัดการทั้งเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้งาน การจัดการบริหารแรงงาน การตัดสินใจแก้ไขปัญหา จัดการงานให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ไปจนถึงการจัดเตรียมเอกสารด้านวิศวกรรมอาคาร ประสานงานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงการจัดทำรายงานงบประมาณ เรียกได้ว่ามีขอบเขตการดูแลที่ครบวงจรและรอบด้านในการก่อสร้างอาคารอย่างแท้จริง

ขอบเขตและหน้าที่ของการจัดการงานวิศวกรรม มีดังนี้

  • ดำเนินการวางแผนและออกแบบโครงการวิศวกรรมรอบด้าน ไม่ว่าจะเรื่องความแข็งแรงคงทนของอาคาร การวางระบบสาธารณูปโภค การวางระบบรักษาความปลอดภัย การออกแบบด้านความปลอดภัย การออกแบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ฯลฯ
  • บริหารจัดการทรัพยากรรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคล แรงงาน, ทรัพยากรด้านวัสดุในการก่อสร้าง งบประมาณ และเวลาในการดำเนินงานที่มีจำกัด
  • ดำเนินการควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานและระยะเป้าหมาย รวมถึงดูแลเรื่องการติดตั้งระบบต่าง ๆ ภายในอาคารอย่างครบถ้วน
  • ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของวัสดุและโครงสร้างอาคารเพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพ
  • ดูแลและให้คำปรึกษาหลังส่งมอบงาน ทั้งเรื่องของการบริหารจัดการและการดูแลรักษาเมื่อเกิดปัญหาโครงสร้างหรือปัญหาจากระบบต่าง ๆ ของอาคาร

การจัดการงานวิศวกรรม เลือกอย่างไรให้มีคุณภาพ

เพราะการจัดการงานวิศวกรรมเป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อให้สามารถจัดการบริหารทุกอย่างให้ออกมาเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ทำให้การเลือกผู้ให้บริการด้านการจัดการงานวิศวกรรม เป็นโจทย์ข้อใหญ่ที่เจ้าของโครงการต้องให้ความสำคัญในการพิจารณา โดยต้องพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้

  • เลือกผู้ให้บริการด้านการจัดการงานวิศวกรรมหรือผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • ตรวจสอบคุณสมบัติ หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และความสามารถของทีมงานที่จะใช้ในการเข้ามาบริหารจัดการดูแลโครงการให้ครบถ้วน
  • มีระบบการจัดการคุณภาพที่ดี เช่น การจัดการคุณภาพที่มีมาตรฐาน ISO9001 หรือมีแผนการควบคุมคุณภาพ การประกันคุณภาพที่ชัดเจนสำหรับโครงการของเรา
  • มีการสื่อสารที่รวดเร็ว คล่องตัว ติดต่อกันง่าย เพื่อให้การดำเนินงานราบรื่นและไม่ขาดการสื่อสารระหว่างผู้ว่าจ้างและบริษัทผู้รับเหมา
  • มีประวัติและชื่อเสียงในการให้บริการที่ดี ไม่มีข่าวเสียหาย หรือไม่มีประวัติเสียหายจากการรับเหมามาก่อน
  • ราคามีความสมเหตุสมผลกับบริการที่ได้รับ และระดับคุณภาพของบริษัทผู้รับเหมา
  • มีสัญญาที่รัดกุม มีรายละเอียดการเริ่มงาน ขอบเขตการดำเนินงาน เงื่อนไขต่าง ๆ การส่งมอบงานตามระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามข้อตกลง ลดการเกิดปัญหาหรือการทิ้งงาน

เพราะการบริหารจัดการงานวิศวกรรมเป็นส่วนงานที่มีรายละเอียดปลีกย่อย ดูแลควบคุมตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ ระหว่างการดำเนินการ ควบคุมคุณภาพมาตรฐานไปจนถึงการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเลือกผู้รับเหมาหรือผู้ให้บริการที่ไว้ใจได้จึงมีความสำคัญ สำหรับ APP Services เป็นบริษัทให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญรอบด้าน พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงใจ พร้อมมอบบริการทางวิศวกรรมอาคารที่ได้มาตรฐานด้วยทีมวิศวกรคุณภาพมากฝีมือที่เข้าใจในทักษะการบริหารจัดการโครงการอย่างตรงจุดสำหรับโครงการของคุณ


☎️ Tel: 02-086-7199

🟢 Line OA: @appmanagement

🔵 Facebook: APP Home Private Service

ติดต่อเราผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

บทความอื่นๆ

สำหรับสายงานอสังหาริมทรัพย์ หรือในการจะที่เราจะริเริ่มโครงการหรือก่อสร้างอาคารใด ๆ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขั้นตอนการจัดการงานวิศวกรรม
การวางระบบเครือข่ายภายในองค์กรหรือที่พักอาศัยมีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ เพราะการวางระบบเครือข่ายที่ดี มีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการอบรมช่างไฟฟ้าภายในอาคาร คือเพื่อให้ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพช่างไฟฟ้าอาคารในอนาคตได้มีองค์ความรู้ที่จำเป็นและสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญการ
บริหารงานนิติบุคคล
และบริการจัดการ
อสังหาริมทรัพย์

ขั้นตอนบริการล้างและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ
เราทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน
ทำความสะอาดล้ำลึกทุกจุด พร้อมตรวจเช็กระบบอย่างมืออาชีพ
01 ปูผ้าใบป้องกันสิ่งสกปรกบริเวณพื้นที่ล้างทำความสะอาด
02 ตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
03 วัดอุณหภูมิและตรวจเช็กกระแสไฟฟ้า
04 ล้างทำความสะอาดแผงฟินคอยล์
05 ล้างทำความสะอาดแผ่นฟิลเตอร์กรองอากาศ
06 ล้างทำความสะอาดพัดลมกรงกระรอก
07 ดูดและเป่าท่อน้ำทิ้งเพื่อป้องกันการอุดตัน
08 ทำความสะอาดตัวเครื่อง Fan Coil Unit
09 เป่าไล่ความชื้นในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องปรับอากาศ
10 ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคบนแผงฟินคอยล์
11 ล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อน (Condensing Coil)
12 ตรวจสอบแผงควบคุมและระบบการทำงานของเครื่อง
13 ตรวจวัดอุณหภูมิความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
14 ตรวจเช็กแรงดันและค่ากระแสไฟฟ้าเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสม
15 ส่งมอบงานให้ลูกค้า พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษา
เครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสม
Air conditioner cleaning and maintenance process
We provide a comprehensive air conditioner cleaning service, enhancing efficiency, extending lifespan, ensuring deep cleaning of every component and conducting a professional system check-up.
01 Lay a protective tarp to prevent dirt and debris in the cleaning area.
02 Inspect the air conditioner’s operation, including the swing panel.
03 Measure temperature and check electrical current.
04 Clean the coil fins.
05 Wash and clean the air filter.
06 Clean the squirrel cage fan.
07 Vacuum and blow out the drain pipe to prevent clogging.
08 Clean the fan coil unit (FCU) casing.
09 Blow out moisture from various parts of the air conditioner.
10 Spray disinfectant on the coil fins.
11 Clean the condensing coil (outdoor unit).
12 Inspect the control panel and overall system operation.
13 Measure the cooling temperature of the air conditioner.
14 Check pressure levels and electrical current to ensure optimal performance.
15 Deliver the completed service to the customer with expert advice on proper air conditioner maintenance.