สำหรับสายงานอสังหาริมทรัพย์ หรือในการจะที่เราจะริเริ่มโครงการหรือก่อสร้างอาคารใด ๆ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขั้นตอนการจัดการงานวิศวกรรม ตั้งแต่ขั้นตอนวางแผนบริหารจัดการโครงการ การวางระบบโครงสร้าง การออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน ถ้าอยากทราบว่าการจัดการงานวิศวกรรมสำคัญอย่างไร และครอบคลุมอะไรบ้าง วันนี้ APP Services มีคำตอบ
การจัดการงานวิศวกรรม คืออะไร
การจัดการงานวิศวกรรม (Engineering Management) คือ การนำเอาองค์ความรู้ทางด้านวิศวกรรรมมาผสมผสานทำงานร่วมกับทักษะการบริหารจัดการ เพื่อบริหารจัดการในเรื่องการออกแบบโครงสร้าง การวางแผนดำเนินงานในโครงการนั้น ๆ รอบด้านให้มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการ และมีความปลอดภัยในการใช้งาน กล่าวได้ว่าเป็นการบริหารจัดการในด้านเทคนิคของวิศวกรรมให้ออกมากลมกลืนและลงตัว ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของโครงการมากที่สุด

องค์ประกอบหลักของการจัดการงานวิศวกรรม มีอะไรบ้าง ?
การจัดการงานวิศวกรรม ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญ คือศาสตร์ของความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับศิลปะแห่งกาารบริหารจัดการ ดังนี้
- ความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรม: โดยจะต้องมีทั้งความรู้และความสามารถในด้านวิศวกรรมศาสตร์อย่างลึกซึ้ง มีประสบการณ์ และแก้ไขปัญหาทางวิศวกรรมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศกรรมเครื่องกล วิศวกรรมโครงสร้าง วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมอุสาหการ ฯลฯ
- ความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการ: เป็นทักษะและความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับศิลปะในการบริหารและจัดการทั้งทรัพยากรภายในโครงการทั้งวัสดุและทรัพยากรมนุษย์ ไปจนถึงการจัดการโครงการ เพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่อง ราบรื่น มีประสิทธิภาพ โดยจะต้องใช้ทั้งทักษะด้านการวางแผน ทักษะด้านการจัดการองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ ทักษะด้านการเป็นผู้นำ สร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างกำลังใจในการทำงาน ไปจนถึงทักษะด้านการควบคุม ประเมิน และแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดอย่างทันท่วงที
ความสำคัญของการจัดการงานวิศวกรรม
การจัดการงานวิศวกรรม มีความสำคัญในระดับรากลึกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะการดำเนินการโครงการ สร้างอาคาร หรือการสร้างที่อยู่อาศัย จะต้องมีการใช้องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมอื่น ๆ รอบด้านในการวางแผน ออกแบบและประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน การจัดการงานวิศวกรรมจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาก ทั้งต่อความปลอดภัยและต่อภาพลักษณ์ที่ดีของโครงการนั้น ๆ
การจัดการงานด้านวิศวกรรม มีข้อดีอย่างไร
- เพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผน และการดำเนินงานการก่อสร้างอาคารและการวางระบบโครงสร้าง ไปจนถึงมาตรฐานความปลอดภัย
- มีการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ลดรายจ่ายสิ้นเปลือง ประหยัดเวลาการดำเนินงาน เป็นตัวกลางในการสื่อสารและประสานงาน ลดความล่าช้าของการก่อสร้าง
- ควบคุมคุณภาพวัสดุ สร้างมาตรฐานในการก่อสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด
- ลดความเสี่ยงจากการเกิดปัญหาด้านวิศวกรรม สามารถประเมินและวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาเพื่อหาวิธีแก้ไขได้ทันท่วงที
- สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโครงการว่ามีมาตรฐานการดำเนินงานก่อสร้างโดยทีมวิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ

การจัดการงานวิศวกรรม ครอบคลุมด้านใดบ้าง
การจัดการงานวิศวกรรม เป็นงานที่มีขอบเขตและหน้าที่ค่อนข้างกว้างและซับซ้อน แต่หลัก ๆ แล้วจะเป็นการบริหารจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “วิศวกรรมอาคาร” ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหลักการออกแบบอาคาร การวางระบบโครงสร้างภายในอาคาร การติดตั้งระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ ไปจนถึงการบริหารจัดการทั้งเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้งาน การจัดการบริหารแรงงาน การตัดสินใจแก้ไขปัญหา จัดการงานให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ไปจนถึงการจัดเตรียมเอกสารด้านวิศวกรรมอาคาร ประสานงานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงการจัดทำรายงานงบประมาณ เรียกได้ว่ามีขอบเขตการดูแลที่ครบวงจรและรอบด้านในการก่อสร้างอาคารอย่างแท้จริง
ขอบเขตและหน้าที่ของการจัดการงานวิศวกรรม มีดังนี้
- ดำเนินการวางแผนและออกแบบโครงการวิศวกรรมรอบด้าน ไม่ว่าจะเรื่องความแข็งแรงคงทนของอาคาร การวางระบบสาธารณูปโภค การวางระบบรักษาความปลอดภัย การออกแบบด้านความปลอดภัย การออกแบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ฯลฯ
- บริหารจัดการทรัพยากรรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคล แรงงาน, ทรัพยากรด้านวัสดุในการก่อสร้าง งบประมาณ และเวลาในการดำเนินงานที่มีจำกัด
- ดำเนินการควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานและระยะเป้าหมาย รวมถึงดูแลเรื่องการติดตั้งระบบต่าง ๆ ภายในอาคารอย่างครบถ้วน
- ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของวัสดุและโครงสร้างอาคารเพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพ
- ดูแลและให้คำปรึกษาหลังส่งมอบงาน ทั้งเรื่องของการบริหารจัดการและการดูแลรักษาเมื่อเกิดปัญหาโครงสร้างหรือปัญหาจากระบบต่าง ๆ ของอาคาร
การจัดการงานวิศวกรรม เลือกอย่างไรให้มีคุณภาพ
เพราะการจัดการงานวิศวกรรมเป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อให้สามารถจัดการบริหารทุกอย่างให้ออกมาเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ทำให้การเลือกผู้ให้บริการด้านการจัดการงานวิศวกรรม เป็นโจทย์ข้อใหญ่ที่เจ้าของโครงการต้องให้ความสำคัญในการพิจารณา โดยต้องพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ ดังนี้
- เลือกผู้ให้บริการด้านการจัดการงานวิศวกรรมหรือผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- ตรวจสอบคุณสมบัติ หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และความสามารถของทีมงานที่จะใช้ในการเข้ามาบริหารจัดการดูแลโครงการให้ครบถ้วน
- มีระบบการจัดการคุณภาพที่ดี เช่น การจัดการคุณภาพที่มีมาตรฐาน ISO9001 หรือมีแผนการควบคุมคุณภาพ การประกันคุณภาพที่ชัดเจนสำหรับโครงการของเรา
- มีการสื่อสารที่รวดเร็ว คล่องตัว ติดต่อกันง่าย เพื่อให้การดำเนินงานราบรื่นและไม่ขาดการสื่อสารระหว่างผู้ว่าจ้างและบริษัทผู้รับเหมา
- มีประวัติและชื่อเสียงในการให้บริการที่ดี ไม่มีข่าวเสียหาย หรือไม่มีประวัติเสียหายจากการรับเหมามาก่อน
- ราคามีความสมเหตุสมผลกับบริการที่ได้รับ และระดับคุณภาพของบริษัทผู้รับเหมา
- มีสัญญาที่รัดกุม มีรายละเอียดการเริ่มงาน ขอบเขตการดำเนินงาน เงื่อนไขต่าง ๆ การส่งมอบงานตามระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามข้อตกลง ลดการเกิดปัญหาหรือการทิ้งงาน
เพราะการบริหารจัดการงานวิศวกรรมเป็นส่วนงานที่มีรายละเอียดปลีกย่อย ดูแลควบคุมตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ ระหว่างการดำเนินการ ควบคุมคุณภาพมาตรฐานไปจนถึงการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเลือกผู้รับเหมาหรือผู้ให้บริการที่ไว้ใจได้จึงมีความสำคัญ สำหรับ APP Services เป็นบริษัทให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญรอบด้าน พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงใจ พร้อมมอบบริการทางวิศวกรรมอาคารที่ได้มาตรฐานด้วยทีมวิศวกรคุณภาพมากฝีมือที่เข้าใจในทักษะการบริหารจัดการโครงการอย่างตรงจุดสำหรับโครงการของคุณ
☎️ Tel: 02-086-7199
🟢 Line OA: @appmanagement
🔵 Facebook: APP Home Private Service